ผู้ผลิต และผู้จำหน่ายสินค้า ใครเป็นคนผลิต ใครเป็นคนจำหน่าย บอกที่อยู่ให้ชัดเจน 5. ขนาดบรรจุ ควรชี้แจงกำกับไว้เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจซื้อ 6. เลขที่ อย. /หรือ เลขที่จดแจ้ง ควรระบุให้ชัดเจน ว่าถูกต้อง ตามหลักมาตราฐาน อย. 7.
- หลักการออกแบบฉลากสินค้าที่ดี
- การทําฉลากสินค้า อย
หลักการออกแบบฉลากสินค้าที่ดี
นึกถึง Brand Identity และความรู้สึกที่ต้องการให้เกิดเมื่อลูกค้าเห็นแพ็คเกจจิ้ง ฉลากสินค้า ของคุณ
แพ็คเกจจิ้งและฉลากสินค้าควรสะท้อนอัตลักษณ์และภาพลักษณ์ของแบรนด์ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณมีธุรกิจขายขนมเพื่อสุขภาพ และเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจในการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แพ็คเกจจิ้งและสติกเกอร์ที่ใช้อาจเป็นสีเอิร์ทโทน สีน้ำตาล สีเขียว อาจใช้กระดาษคราฟท์ กระดาษรีไซเคิล เพื่อสะท้อนตัวตนของแบรนด์ กลับกัน หากธุรกิจของคุณขายเครื่องสำอางค์หรู แพ็คเกจจิ้งและสติกเกอร์ที่เลือกอาจเป็นสีหวานๆ และใช้กาารเคลือบด้านหรือเทคนิคสะท้อนแส้ง Hologram ทำให้ลูกค้าที่ได้รับสินค้ารู้สึกถึงความ high end ความพรีเมียม
3. ข้อความที่คุณอยากแชร์ให้ลูกค้าได้รับรู้ คืออะไร
ฉลากสินค้าของคุณ อาจมีชื่อแบรนด์ ชื่อสินค้า ส่วนผสม ที่มา หรือข้อความ ความรู้สึกอื่นๆ ที่อยากสื่อให้ลูกค้ารับรู้ เช่น ถ้าคุณกำลังจะทำคุกกี้ขาย และมุ่งหวังให้ลูกค้าที่สั่งคุกกี้รู้สึกตื่นเต้น สนุกสนาน อาจเลือกใส่ข้อความตลกๆ บนคุกกี้ ใส่คำทำนาย หรือรูปวาดน่ารักๆ แต่ถ้าธุรกิจของคุณขายยาสมุนไพรเพื่อรักษาโรคต่างๆ ฉลากบนขวดอาหารเสิรมของคุณควรออกแบบให้ดูเป็นทางการเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และควรมีข้อมูลที่ครบถ้วน ระบุ ส่วนผสม จำนวนอาหารเสิรม ข้อควรปฏิบัติ คำเตือน
4.
ฉลากสินค้า คือ แถบที่ระบุข้อมูลและรายละเอียดทั้งหมดที่เกี่ยวกับสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ เป็นข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค เช่น วันเดือนปีที่ผลิต ข้อมูลทางโภชนาการ วิธีการใช้งาน คำเตือน รวมไปถึงหมายเลขทางการค้า การมีฉลากที่ระบุข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับสินค้าจะช่วยประกอบการตัดสินใจให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น
ฉลากสินค้า คือ? อะไรคือประโยนช์ของฉลากสินค้า? ฉลากสินค้าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ เพราะนอกจากจะใช้ระบุข้อมูลสำคัญที่ผู้บริโภคจำเป็นต้องรู้แล้ว ฉลากสินค้ายังมีความสำคัญกับธุรกิจดังนี้
1. ทำให้สินค้าโดดเด่น เป็นที่จดจำ
ฉลากสินค้าที่มีการออกแบบสวยงาม โดดเด่น จะช่วยทำให้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักและเป็นที่จดจำมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้สี รูปภาพ หรือข้อความต่างๆ ฉะนั้นการออกแบบฉลากสินค้าจึงควรเน้นให้มีความโดดเด่นและแตกต่าง เพื่อที่ผู้บริโภคเห็นสินค้าแล้วจะสามารถจดจำได้ทันทีว่าเป็นสินค้าของแบรนด์อะไรนั่นเอง
2. ดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้มากขึ้น
เมื่อฉลากสินค้ามีความสวยงามก็จะสามารถกระตุ้นความอยากซื้อของผู้บริโภคได้ เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่มักจะเลือกซื้อสินค้าจากความสวยงามของฉลากหรือบรรจุภัณฑ์เป็นอันดับแรก หากฉลากสินค้ามีความสวยงาม มีการออกแบบที่บ่งบอกถึงสไตล์หรือตัวตนของแบรนด์ได้ดี ผู้บริโภคก็จะรู้สึกสนใจและตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
3.
- คาดบ.สินเชื่อไปรษณีย์ไทยฯ พร้อมปล่อยกู้ เม.ย.
- แปลเพลง wake up in the sky
- อายุ มาก ผม บาง
- Yamaha psr f51 ราคา mini
- การทําฉลากสินค้า
- ข้อสอบ สถิติ pat1
- ขนาด กระดาษ a4 photoshop images
- การทําฉลากสินค้า อย
- มาตรา เวลา ประเทศไทย
- บริษัท บิสเทค (ประเทศไทย) จำกัด | ไทยแลนด์ เยลโล่เพจเจส
- ฉลากสินค้า คือ ? ทำไมต้องมีฉลากสินค้า ? - Riccoprint
- เกียร์ โยง cbr500r 2019 professional
การทําฉลากสินค้า อย
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ นักธุรกิจใหม่ หรือเรียกง่ายๆว่า เถ้าแก่คนใหม่ จะดีกว่านะ พอเกริ่นนำปุ๊บก็เป็นอะไรที่อยากให้ทุกๆ คนที่มาอ่านบทความนี้ ได้มีกำลังใจตั้งใจทำในสิ่งที่อยากตั้งใจทำ และมีรอยยิ้มในการจะเริ่มทำธุรกิจของตัวเองคะ.... มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่านะ ในการเริ่มต้นออกแบบพิมพ์ฉลากสินค้า แน่นอนเลยต้องมีสินค้าอยู่ในมือแล้วว่าจะทำอะไร จะขายให้คนกลุ่มไหน จะวางขายสินค้าที่ไหนกันบ้าง พอกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้แล้ว คราวนี้ก็มาดูรายละเอียดในการออกแบบฉลากพิมพ์สติ๊กเกอร์กันได้แล้วค่ะ ข้อมูลที่ต้องตระเตรียมสำหรับงานออกแบบฉลากพิมพ์ฉลากสินค้า ก็มีคร่าวๆ ตามนี้ค่ะ 1. ชื่อแบรนด์ หรือชื่อสินค้า (ที่ควรจะต้องมี) สิ่งนี้สำคัญก็ว่าได้ การได้ซื้อสินค้าที่มีแบรนด์ย่อมได้เปรียบกว่าคู่แข่งเสมอ สร้างการรับรู้ เป็นสิ่งที่ควรต้องทำเป็นอันดับต้นๆ (ถ้ามีชื่อรส ก็ควรกำกับแจ้งไว้ให้ด้วยจะเป็นสิ่งที่ดี) 2. สรรพคุณสินค้า การมีรายละเอียดบอกสรรพคุณ วิธีใช้ ใช้อย่างไร เป็นสิ่งที่ควรมี เพื่อให้ผู้ซื้อได้อ่านและปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้ได้อย่างถูกวิธี 3. แจ้งส่วนประกอบ (ถ้ามี) บางสินค้าอาจจะไม่จำเป็นต้องระบุ การบอกที่มาของสินค้าว่ามีส่วนผสมมาจากวัตถุดิบอะไรย่อมทำให้เกิดความน่าเชื่อถือมากกว่า การไม่บอก 4.
อย่าลืมองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด
จากข้อมูลข้างต้น สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการทำโลโก้ให้มีความน่าสนใจและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับงานออกแบบฉลากสินค้า สำหรับธุรกิจเล็กๆ อาจมีสินค้าแค่ตัวเดียว โลโก้แบรนด์กับโลโก้สินค้าก็อาจจะใช้ตัวเดียวกันได้ สำหรับธุรกิจใหญ่ที่มีสินค้าหลายอย่าง อาจจะต้องออกแบบโลโก้เฉพาะสินค้าเพื่อแยกไป และฉลากสินค้านั้นต้อง Match กับโลโก้สินค้าชนิดนั้นด้วย
2. ตัวหนังสือต้องอ่านง่าย
นักออกแบบต้องคำนึงถึงหลักข้อนี้ให้มากที่สุดอีกข้อหนึ่ง อย่ามองข้ามการใช้ตัวหนังสือที่อ่านง่าย เพราะผู้บริโภคหลายกลุ่มชอบอ่านรายละเอียดข้างในฉลากสินค้า ดังนั้นจึงควรเลือกตัวอักษรที่ไม่แปลกจนอ่านยาก เลือกใช้อักษรที่ดูสะอาด สบายตา สีของตัวอักษรเช่นกัน
3. จับคู่ Font ต่างชนิดให้ลงตัว
การออกแบบฉลากสินค้านั้นต้องเล่นกับพื้นที่ว่าง ที่จำกัดด้วยข้อมูลสั้นและแตกต่างกัน การเลือกใช้ Fonts ที่แตกต่างกันจะช่วยให้ฉลากมีความน่าสนใจและสื่อความหมายถึงข้อมูลแต่ละประเภทให้ผู้บริโภครับทราบได้
4. สร้างช่องว่างด้วยการใช้สีขาว
เพราะการใช้สีขาวเป็นช่องว่างจะทำให้เห็นความแตกต่างและแยกความแตกต่างของส่วนข้อมูลให้ชัดเจน เทคนิคนี้สามารถจับคู่ Fonts ให้มีความสวยงามขึ้น และสีขาวให้ความรู้สึกสะอาดตา ดูเป็นมิตรและมีความน่าเชื่อถือ
5.
การสร้างฉลากสินค้า เป็นการบ่งบอกว่าสินค้าชินนี้ ชื่ออะไร ใครเป็นผู้ผลิต
ซึ่งเป็นส่วนสำคัญมาก ในการสร้างการจดจำให้แก่ผู้บริโภค และเป็นการขยายฐานลูกค้าอีกด้วย
วันนี้ช้างทองจะพามาดูการสร้างฉลากสินค้า
หลักๆ จะมี 3 ส่วนด้วยกัน
1. โลโก้สินค้า 2. ชื่อแบรนด์ 3.
ออกแบบแพ็คเกจจิ้งที่เจ๋งเท่าสินค้าข้างใน
ทุกธุรกิจควรตั้งใจทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความรักความใส่ใจ และการออกแบบแพ็คเกจจิ้งสวยๆ สามารถสร้างความไว้วางใจ และแสดงถึงความใส่ใจได้ วิธีง่ายๆ ก่อนลงมือออกแบบแพ็คเกจจิ้งดีๆ คือการไปเดินดูสินค้าอื่นๆ ในห้างหรืองานอีเว้นท์ แล้วเลือกดูสินค้าที่แพ็คเกจจิ้งดูดี และสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ แล้วลองนำลักษณะรายละเอียดในแพ็คเกจจิ้งพวกนี้มาใส่ในดีไซน์ของคุณ
5. ฉลากสินค้าที่ดี ควรดึงดูดความสนใจหรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและแบรนด์
ทุก touch point ที่ลูกค้ามีกับแบรนด์ของคุณ เป็นเหมือนโอกาสที่จะนำเสนอสินค้าและโน้มน้าวให้เกินการซื้อขาย ดังนั้น ก่อนสั่งผลิตฉลากสินค้า ควรมั่นใจว่าฉลากสามารถทำหน้าที่ของมัน คือ ดึงดูดความสนใจของลูกค้า และย้ำอัตลักษณ์ ความเป็นตัวตนของแบรนด์ หรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือแบรนด์ของคุณ
6.
ช่วยแยกแยะประเภทของสินค้า
การติดฉลากจะช่วยให้ผู้บริโภคแยกประเภทของสินค้าได้ง่ายขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสองขวดจากแบรนด์เดียวกัน ขวดหนึ่งเป็นโลชั่นสำหรับผิวแห้ง อีกหนึ่งขวดเป็นโลชั่นสำหรับผิวคล้ำเสีย การออกแบบฉลากของโลชั่นสองขวดนี้ก็จะต้องมีความแตกต่างกันเพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจน อาจใช้ฉลากสีเขียวแทนความชุ่มชื้นของโลชั่นสำหรับผิวแห้ง หรือใช้ฉลากสีชมพูสำหรับโลชั่นบำรุงผิวคล้ำเสีย เป็นต้น
4. เป็นช่องทางโปรโมทการตลาด
นอกจากข้อมูลสำคัญของสินค้าแล้ว บนฉลากยังสามารถเพิ่มข้อมูลติดต่อของแบรนด์ได้ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ เบอร์โทรศัพท์ หรือช่องทางอื่นๆ อีกทั้งยังสามารถเพิ่มโปรโมชั่นหรือโฆษณา ช่วยกระตุ้นความสนใจของผู้บริโภคได้มากขึ้น
สำหรับท่านที่สนใจ พิมพ์ฉลากสินค้า เรามีบริการรับออกแบบและรับ พิมพ์สติ๊กเกอร์ฉลากสินค้า ไดคัทรูปทรงต่างๆ สำหรับผู้ที่เริ่มสร้างแบรนด์ เจ้าของธุรกิจ โดยไม่จำกัดจำนวนขั้นต่ำ
ทอล์ก-กะ-เทย Tonight | EP. 15 แขกรับเชิญ 'โอปอล์ ปาณิสรา' - YouTube