การเปลี่ยนรูปคำกริยาเป็น
Past Tense นั้น มีอยู่ด้วยกัน 2
วิธี คือ
1. เติม ed ท้ายคำกริยาช่องที่ 1
( regular verb)
2. คำกริยาที่เปลี่ยนรูปใหม่ (irregular verb)
ซึ่งหลักการนี้
ก็ใช้เช่นเดียวกันกับการเปลี่ยนคำกริยาเป็น Past Participle ( verb3)
หลักการเติม ed ท้ายคำกริยา มีดังนี้
1. คำกริยาโดยทั่วไป
เมื่อเปลี่ยนเป็นคำกริยาช่อง 2-3 เติม ed
·
listen-listened-listened (ฟัง)
look-looked-looked (มองดู)
paint-painted-painted (ทาสี)
rain-rained-rained (ฝนตก)
talk-talked-talked (พูดคุย)
visit-visited-visited (เยี่ยมเยียน)
point-pointed-pointed (ชี้)
watch-watched-watched (ดู, เฝ้าดู)
jump-jumped-jumped (กระโดด)
2. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย
e สามารถเติม d ได้เลย
loved-loved-loved (รัก)
like-liked-liked (ชอบ)
live-lived-lived (อาศัยอยู่, มีชีวิตอยู่)
move-moved-moved (เคลื่อนย้าย)
hate-hated-hated (เกลียด)
hope-hoped-hoped (หวัง)
smile-smiled-smiled (ยิ้ม)
bake-baked-baked (อบ)
3. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย
y มี 2 กรณี คือ
ถ้าหน้า y เป็นพยัญชนะ
ให้เปลี่ยน y เป็น i เติม ed
marry-married-married (แต่งงาน)
hurry-hurried-hurried (รีบเร่ง)
study-studied-studied (เรียน)
cry-cried-cried (ร้องไห้)
carry-carried-carried (ถือ)
worry-worried-worried (กังวล, เป็นห่วง)
deny-denied
(ปฏิเสธ)
ถ้าหน้า y เป็นสระ
สามารถเติม d ได้เลย
play-played-played (เล่น)
stay-stayed-stayed (อยู่)
enjoy-enjoyed-enjoyed (สนุกสนาน)
obey-obeyed-obeyed (เชื่อฟัง)
4.
- กริยา เติม éd. 1958
- Sheeran
กริยา เติม éd. 1958
การเติม ed ใน Past Simple Tense - YouTube
พี่นุ้ยคะ แพรมีคำถามค่ะ ( จริงๆ อยากได้หนังสือพี่นุ้ยมาก) แพรไม่เข้าใจเกี่ยวกับการเติม –ed คือตอนเเรกนึกว่าการเติม –edแสดงว่าเป็นอดีต แต่จริงๆแล้วมันมีรายละเอียดมากกว่านั้นใช้ไหมคะ อธิบายหน่อยค่ะ ตอบ เติม –ed สามารถเป็นอะไรได้บ้าง 1. เติม –ed เป็นกริยาช่อง 2 อย่างที่น้องบอกค่ะ คือเป็น past tense แสดงว่าการกระทำนั้นๆเกิดไปแล้วในอดีต เช่น I worked at my office yesterday. (ฉันทำงานอยู่ที่ออฟฟิศเมื่อวานนี้) 2. เติม –edเป็น v. 3 ซึ่งตรงนี้มีที่ใช้ได้หลายกรณีเลย ตามไปดูกัน 2. 1 ใช้กับ present perfect คือ has, have+v. 3 เพื่อบอกถึงการกระทำตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันเช่น I have worked here for five years. (พี่นุ้ยทำงานที่นี่มา 5 ปีแล้ว) 2. 2 เป็นประโยคถูกกระทำ อันนี้โครงสร้างคือ v. to be+v. 3 เช่น The food is cooked by her. (อาหารถูกปรุงหรือได้รับปรุงโดยเธอ) The song is played every day. (เพลงนี้ถูกหรือได้รับการเล่นทุกวัน) 2. 3 v. 3 ใช้เป็นส่วนขยายแปลว่า นามนั้นถูกทำ จำได้ไหมเรามักนำไปเปรียบเทียบกับ ที่แปลว่านามนั้นทำเอง a threatening letter จดหมายที่ข่มขู่ ข่มขู่เองใช้ –ing a threatened girl ผู้หญิงที่ถูกข่มขู่ ถูกกระทำใช้ v. 3 There was an accident killing three people yesterday.
She was sent to the prison. Arrested by the police, she was sent to the prison. Being arrested by the police, she was sent to the prison. – ถ้ากริยาที่เกิดขึ้นก่อนเป็น active form และเป็น past perfect tense คืออยู่ในรูป had + V3 ให้เปลี่ยน had เป็น having หรือตัด had ทิ้งแล้วเปลี่ยน V3 เป็น V-ing
He had worked hard all week. He felt tried. Having worked hard all week, he felt tried. Working hard all week, he felt tried. 2. เมื่อประธานไม่ใช่ตัวเดียวกัน มีหลักดังนี้
– ไม่ตัดประธานของทั้ง 2 ประโยคออก
– ถ้ากริยาที่เกิดก่อนเป็น Active form อยู่ในรูป past simple tense ให้เปลี่ยนกริยาเป็น (had + V3) และเปลี่ยน had ให้เป็น having เช่น
She walked in the park. A dog bit her. She having walked in the park, a dog bit her. – ถ้ากริยาที่เกิดก่อนเป็น Passive form ( verb to be + V. 3)ให้เปลี่ยน เป็น had been + V. 3 แล้วเปลี่ยน had เป็น having
She was taken to hospital. The doctor examined her. She having been taken to hospital, the doctor examined her. – ถ้ากริยาที่เกิดก่อนเป็น Active form อยู่ในรูป had + V. 3 ให้เปลี่ยน had เป็น having
He had worked for five days.
adjective ที่เติม ed ing มันก็คือคำกริยานั่นแหละครับ แต่มาเติม ed ing ต่อท้ายเพื่อทำหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์แค่นั้นเอง ว่าแต่มันใช้ยังไง เดี๋ยวมาดูกันดีกว่านะ
การใช้ adjective ed ing
adjective ที่เติม ed หรือ ing เดิมทีมันก็คือคำกริยานั่นแหละ ถ้าเป็นคำกริยา บางคำจะแปลว่า "ทำให้…. " หรือ แปลตามตัว
แต่พอทำหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์ จะแปลว่า "รู้สึก…" หรือ "น่า…"
ซึ่งถ้าเป็นคำโดดๆ เราจะไมรู้ว่ามันทำหน้าที่เป็นคำกริยา หรือ คุณศัพท์ จนกว่ามันจะมาปรากฎในรูปประโยคนั่นแหล่ะ เราจะถึงบางอ้อ
ตัวอย่างใช้เป็นคำกริยา
frighten แปลว่า ทำให้…กลัว tire แปลว่า เหนื่อย satisfy แปลว่า ทำให้…พอใจ interest แปลว่า ทำให้สนใจ disappoint แปลว่า ทำให้ผิดหวัง
He is frightening kids by wearing a ghost mask. เขากำลังทำให้เด็กๆกลัวโดยการสวมหน้ากากผี
My granddad is very old, so he tires easily. ปู่ของผมแก่มาก ดังนั้นท่านจึงเหนื่อยง่าย
Yesterday's show satisfied all of us. การแสดงเมื่อวานทำให้พวกเราทุกคนพอใจ
This job might interest you. งานนี้อาจทำให้คุณสนใจก็ได้นะ
Sam never disappoints his parents. แซมไม่เคยทำให้พ่อแม่ผิดหวัง
ตัวอย่างการใช้เป็นคำคุณศัพท์
ทีนี้พอมาทำหน้าที่เป็นคำคุณศํพท์ จะแปลว่า รู้สึก… น่า… โดยมีหลักการจำดังนี้
รู้สึก ให้เติม อีดี … น่าอย่างนั้น น่าอย่างนี้ เติม ไอเอ็นจี นะจ๊ะ… (เอ้า.. อีกเที่ยว)
ed = รู้สึก ing = น่า
I am bored.
Sheeran
- ค้นหาผู้ผลิต 25.4มม.ไดอะแฟรมโดม ที่มีคุณภาพ และ 25.4มม.ไดอะแฟรมโดม ใน Alibaba.com
- English So Easy : Verbs เติม ed หรือ ing เป็น Adjective ใช้ต่างกันอย่างไร..?
- กริยา เติม ed hardy
- Honda crx 1988 ราคา
- มดแดง - GotoKnow
- Ga 400 2adr ราคา manual
- การ ทดลอง แบบ crd
- กริยา เติม ed sheeran
- กริยา เติม éd. unifiée
- น่าน ฟ อ ร์ ยู รีสอร์ท: อภิรตา รีสอร์ท – อ.เมืองน่าน จ.น่าน (Apirata Resort) | \Teppitak/
- ได โอด 4148 sesame
- หลักการเติม ed - GotoKnow
ฉันรู้สึกเบื่อ (เซ็ง ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น) I am boring. ฉันน่าเบื่อ (ไม่มีใครอยากคบ อยากคุยกับฉัน)
โครงสร้างของประโยค
S + linking verb + adj ed, ing
S = Subject คือ ประธานของประโยค Linking verb คือ กริยาเชื่อมทั้งหลาย เช่น is, am, are, was, were, seem, sound, feel, etc. adj ed, ing คือคำคุณศัพท์ที่เติม ed กับ ing
อ่านเพิ่มเติม >> Linking verb คืออะไร
ed รู้สึก…
ใครรู้สึก? ก็ประธานของประโยคไง เช่น ฉัน คุณ เขา เด็กชาย ไก่ ลิง พระ เด็ก เป็นต้น เราจะแปลว่า รู้สึก หรือไม่ต้องแปลว่ารู้สึกก็ได้
I am bored. I won't do anything today. ฉันเบื่อ ฉันจะไม่ทำอะไรทั้งนั้นวันนี้
I am confused. I don't know which way to go. ฉันรูสึกสับสบ ฉันไมรู้จะไปทางไหนดี
Everyone was impressed when the show ended. ทุกคนรู้สึกประทับใจ เมื่อการแสดงจบลง
Jane sounded pleased when she passed the exam. เจนดูเหมือนรู้สึกพอใจที่หล่อนสอบผ่าน
I am interested in this job. ฉันสนใจในงานนี้
I am deeply disappointed in you. ฉันผิดหวังในตัวเธออย่างมาก
ing น่า…
ใครน่า…? ก็ประธานของประโยคอีกนั่นแหละ เช่น น่าเบื่อ น่าสับสน น่าประทับใจ เป็นต้น
I am boring.
จากวันก่อนที่ได้อธิบายเรื่อง กริยา 3 ช่อง และเห็นประเภทของคำกริยา 3 ช่องไปแล้ว นั่นคือมี Regular Verbs (กริยาผันปกติ - เติม ed) และ Irregular Verbs (กริยาผันไม่ปกติ) เดี๋ยววันนี้เราจะมาดูหลักการเติม ed ใน irregular verbs กัน และนี่สำคัญเพราะออกข้อสอบกันอยู่เรื่อยๆ จ้า
หลักการเติม ed หลังคำกริยา สำหรับ Irregular Verbs
Regular verb กริยาผันด้วยการมีรูป –ed ต่อท้าย (ผันแบบปกติ)
1. เติม –ed ต่อท้ายคำกริยาหรือกริยาช่อง 1 เช่น
help helped help = ให้ความช่วยเหลือ play played played = เล่น
2. ส่วนกริยาที่ลงท้ายด้วย e เติม –d ไปท้ายกริยาช่อง 1 เช่น
hate hated hated = เกลียด dance danced danced = เต้น
3. กริยาที่ลงท้ายด้วย y ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม –ed เช่น
study studied studied = เรียนหนังสือ marry married married = แต่งงาน
* ยกเว้นกริยาที่หน้า y เป็นสระ (a e i o u) สามารถเติม –ed ต่อท้ายได้เลย เช่น
play played played = เล่น spray sprayed sprayed = ฉีดพ่น
4. กริยาที่มีพยางค์เดียว และมีสระ (a e i o u) เพียงตัวเดียว ให้ซ้ำตัวอักษรท้ายสุดแล้วเติม –ed เช่น
stop stopped stopped = หยุด mob mobbed mobbed = ถู
5.
หลักเกณฑ์การเติม ed ที่คำกริยา มีหลักเกณฑ์ดังนี้ 1. กริยาที่ลงท้าย e อยู่แล้วให้เติม d ได้เลย เช่น love - loved = รัก move - moved = เคลื่อน 2. กริยาที่ลงท้ายด้วย y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยน y เป็น i เสียก่อนแล้วจึงเติม ed เช่น cry - cried = ร้องไห้ try - tried = พยายาม marry - married = แต่งงาน 3. กริยาที่ลงท้ายด้วย y แต่หน้า y เป็นสระ ให้เติม ed ได้เลย ไม่ต้องเปลี่ยน y เป็นอะไรทั้งสิ้น play - played = เล่น enjoy - enjoyed = ร่าเริง, สนุก stay - stayed = พัก, อาศัย 4. กริยาที่มีเพียงพยางค์เดียวและลงท้ายด้วยพยัญชนะที่เป็นตัวสะกดตัวเดียวให้เพิ่มพยัญชนะที่ลงท้ายนั้นเข้าไปอีก 1 ตัวเสียก่อน แล้วจึงเติม ed เช่น hop - hopped = กระโดด plan - planned = วางแผนการ stop - stopped = หยุด 5. กริยามีเสียง2พยางค์แต่ลงเสียงหนักพยางค์หลังและพยางค์หลังนั้นมีสระตัวเดียวลงท้ายด้วยตัวสะกดตัวเดียว ต้องเพิ่มพยัญชนะที่ลงท้ายนั้นเข้าไปอีก 1 ตัวเสียก่อน แล้วจึงเติม ed เช่น concur - concurred = ตกลง, เห็นด้วย refer - referred = อ้างถึง permit - permitted = อนุญาต ยกเว้น: ถ้าออกเสียงหนักที่พยางค์แรก ไม่ต้องซ้อนพยัญชนะตัวสุดท้ายเข้ามา เช่น cover - covered = ปกคลุม open - opened = เปิด gather - gathered = รวม, จับกลุ่ม 6.
นวัตกรรมทำให้ฉันสนใจ
้ 3. I think the news...............................
คำว่า "the news" ไม่ใช่คนค่ะ รู้สึกไม่ได้ เพราะฉะนั้น ตัดข้อ C และ D ทิ้งค่ะ เราเติม (-ed) ไม่ได้
จึงเหลือข้อ A และ B แต่ อย่าประมาทนะคะ ข้อนี้สาลี่หลอกทุกคนค่ะ คำว่า The news มันมี S อยู่ข้างท้ายเสมอ แต่ตัวมันเองเป็นเอกพจน์ค่ะ เพราะฉะนั้น Verb to be ที่ใช้กับ The news ก็คือ "is" ค่ะ อิอิ ตอบข้อ A นะคะ
โครงสร้าง Verb to be + too+ Adjective + to Verb บางสิ่งบางอย่าง
เช่น Yuki is too scared to speak anything. ยูกิรู้สึกกลัวมาก กลัวเสียจนพูดอะไรไม่ออกเลย
ดังนั้น ข้อ 4 จึงตอบข้อ A เพราะโครงสร้างข้างต้นนี่เองค่ะ
นายทอมสันเป็นประธาน ซึ่งเป็นคน "รู้สึก" ได้ จึงเติม (-ed) ได้
ความหมายก็คล้อยตามกันด้วยค่ะ คือ นายทอมสันรู้สึกประหลาดใจที่เห็นว่าเจ้านายของเขาเปลี่ยนใจอีกครั้ง (เปลี่ยนใจอีกเป็นครั้งที่สอง) ข้อ d ไม่ใช่ค่ะ เพราะนายทอมสันไม่ได้ "น่าประหลาดใจ" เราไม่ได้บรรยายสภาพว่า นายทอมสันน่าประหลาดใจ ^^
พอเข้าใจกันแล้วใช่บ่อทุกคน
- กระเป๋า coach รุ่นใหม่ 2011 edition
- เฮอ ร์ คิว ลิ ส พากย์ ไทย เต็ม เรื่อง
- ตกแต่ง ท่อ แอร์
- ขาย เคส lenovo drivers
- กระเป๋า ลา ล่า มูฟ บางแค